ทางเข้า เว็บตรง

ยินดีต้อนรับ นักเดิมพันทั่วไทย

คาดการณ์ โลกหยุดหมุน จะเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตมนุษย์

โลกหยุดหมุน

โลกหยุดหมุน กำลังจะเกิดขึ้น ในอีกไม่ช้าจริงหรือ? เป็นคำถามที่หลายคน เริ่มให้ความสนใจ จากการหมุนของโลกรอบตัวเอง ที่จะหมุนช้าลงทุกที จนช่วงชีวิตหนึ่ง ของเราในอนาคต ถึงคราวที่โลกนั้น หยุดหมุนขึ้นมากะทันหัน จะต้องทำอย่างไร ส่งผลกระทบอะไรตามมาบ้าง เรามาทำความเข้าใจ กันให้มากขึ้น

โลกหยุดหมุน สัญญาณอันตรายต่อมนุษย์โลก

ตามปกติโลกของเรา มีการหมุนรอบตัวเอง 360 องศา ในเวลา 1 วัน ซึ่งเทียบเป็น อัตราความเร็วเชิงเส้น ประมาณ 1,670 กิโลเมตร / ชั่วโมง ตามเส้นศูนย์สูตรโลก ที่ละติจูด 0 องศา ส่วนละติจูดอื่น มีอัตราความเร็ว ที่ลดลงกันไปตามลำดับ ทำให้ทุกสิ่งบนพื้นโลก สามารถเคลื่อนที่ รอบโลกไปได้ แบบที่เราไม่ทันได้รู้สึกตัว

หากวันไหน โลกหยุดหมุน ขึ้นมาทันที แน่นอนว่า ส่งผลกระทบรุนแรงต่อสิ่งมีชีวิต โดยนักวิทยาศาสตร์ ทำผลการวิเคราะห์ จากการสั่นสะเทือน ของแผ่นดินไหว เมื่อสิบปีก่อนว่า แก่นโลกชั้นใน เคยหยุดหมุนลง และ ทิศทางการหมุน เปลี่ยนเป็นทิศตรงข้าม ส่งผลให้โลก เกิดการเปลี่ยนแปลง หลายด้านอย่างทุกวันนี้

ทำความรู้จักแก่นโลกก่อนเกิด โลกหยุดหมุน

แก่นโลกชั้นใน (Inner Core) [1] เปรียบเหมือนเป็น ลูกเหล็กทรงกลม อยู่ลึกสุดของใต้ผิวโลก ประมาณ 5,000 กิโลเมตร มีอุณหภูมิความร้อนสูงถึง 6,000 องศาเซลเซียส เทียบเท่ากับผิวชั้นนอก ของดวงอาทิตย์ ซึ่งหลังจากเกิด แผ่นดินไหวรุนแรงครั้งนั้น นักวิจัยพบว่า แก่นโลกชั้นใน มีโอกาสเปลี่ยน ทิศหมุนในอนาคต

ใช้เวลาประมาณ 70 ปี นั่นหมายความว่า การหมุนของโลก สามารถเปลี่ยนทิศทางได้ทุก 35 ปี ส่งผลต่อการขยายเวลา ในแต่ละวัน ให้นานขึ้นเล็กน้อย แต่ยังไม่สามารถ ยืนยันได้ว่า โลกหยุดหมุน อีกครั้งเมื่อไหร่ เพราะนั่นก็ไม่ใช่ครั้งแรก ซึ่งก็กลับมาหมุนได้อีกรอบ แต่เปลี่ยนทิศเท่านั้นเอง

โลกหยุดหมุน ผลกระทบเหนือจินตนาการ

โลกหยุดหมุน

หากอยากรู้ว่าเมื่อ โลกหยุดหมุน แล้วไม่กลับมาหมุนอีกเลย จะเป็นอย่างไรล่ะ? หลายคนต้องสงสัยกันแน่นอน เราจะมาดูสถานการณ์ ที่คาดการณ์แล้วว่า จะเกิดขึ้นกับโลกใบนี้ แท้จริงแล้วเป็นอย่างไรมาดู

  • วัตถุเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูง : ทุกอย่างบนพื้นผิวโลก ไร้แรงโน้มถ่วงยึดเหนี่ยว และ สูญเสียพลังงาน ทำให้เกิดการลอยเคว้ง ปลิวไปทางทิศตะวันออก ด้วยความเร็วมหาศาล จนตกลงมา
  • คลื่นยักษ์ : ความรุนแรงที่ว่า ยิ่งกว่ามหันตภัยสึนามิ เกิดจากน้ำทะเล ทั้งมหาสมุทรทั่วโลก ก่อตัวเป็นคลื่นสูงขนาดมหึมา มุ่งหน้าไปทางทิศตะวันออก พร้อมกวาดล้างทุกอย่าง ระยะทางไกลราว 28 กิโลเมตร ภายใน 1 นาที
  • พายุรุนแรง : เมื่อเกิด โลกหยุดหมุน กะทันหัน บรรยากาศในโลก จะเคลื่อนที่ไปอย่างต่อเนื่อง เกิดการหมุนเวียนทั่วโลก ด้วยความเร็วสูงถึง 1,770 กิโลเมตร / ชั่วโมง ทั้งยังอาจสูญเสีย ชั้นบรรยากาศ บางส่วนไปอีกด้วย
  • กำเนิดทวีป และ มหาสมุทรแห่งใหม่ : ผลมาจากพื้นดิน กับพื้นน้ำ เปลี่ยนแปลงกะทันหัน ทำให้น้ำทะเลไหลไปรวมกัน ที่ขั้วโลกเหนือ และ ขั้วโลกใต้ ซึ่งมีแรงโน้มถ่วง ค่อนข้างมาก ก่อกำเนิดเป็นทวีปใหม่ ตรงกลางโลก ที่ติดกับมหาสมุทร
  • โลกกลมกว่าเดิม : การหมุนที่เกิดจากแรงเหวี่ยง ทำให้ขั้วโลกแบน ส่วนเส้นศูนย์สูตรจะนูน แต่ถ้าหาก โลกหยุดหมุน ลักษณะทางกายภาพ จะเปลี่ยนแปลง ทำให้โลกกลมมากขึ้น
  • อากาศต่างกันฉับพลัน : แม้จะหยุดหมุนรอบตัวเอง แต่ก็ยังหมุนรอบดวงอาทิตย์ ทำให้ฝากหนึ่ง ร้อนเหมือนทะเลทรายถูกเผา มีแต่ตอนกลางวัน ส่วนอีกฝากหนึ่ง หนาวเย็นเหมือนน้ำแข็ง มีแต่ตอนกลางคืน มืดไปตลอดกาล และ เวลาของโลก 1 วัน จะเท่ากับ 1 ปี
  • สนามแม่เหล็กหาย : สนามแม่เหล็ก จะทำหน้าที่ป้องกันโลก จากรังสีคอสมิก กับลมสุริยะ ที่เป็นอันตราย แต่หาก โลกหยุดหมุน สนามแม่เหล็กจะหายไป กระแสอนุภาคประจุไฟฟ้า จะถูกปล่อยออกมา ทำลายทุกสิ่งในพริบตา

สรุป โลกหยุดหมุน จุดจบโลกเดิม กำเนิดโลกใหม่

โลกหยุดหมุน การหมุนรอบตัวเองของโลก ที่ยังกลับมาหมุนต่อ ได้อีกหลายครั้ง นั่นหมายความว่า หายนะเหนือจินตนาการ ที่จะทำลายล้างโลก ภายในไม่กี่วินาที อาจจะไม่เกิดขึ้นจริง ถึงอย่างไรก็ตาม เราทุกคนสามารถรักษาโลกใบนี้ ให้อยู่กับเราได้นานขึ้น ด้วยฝีมือของมนุษย์เราเองทั้งสิ้น

อ้างอิง

[1] Wikipedia. (January 27, 2024). โครงสร้างของโลก. Retrieved from Wikipedia