ทางเข้า เว็บตรง
ยินดีต้อนรับ นักเดิมพันทั่วไทย
Menu
ยินดีต้อนรับ นักเดิมพันทั่วไทย
หม่าล่า อาหารรสชาติจัดจ้านสไตล์จีน เผ็ดร้อนจนชาลิ้น เชื่อว่าไม่มีใครไม่รู้จัก เรียกว่าถูกปากคนไทย เป็นอย่างมาก ทั้งแบบเสียบไม้ปิ้งย่าง หรือ ชาบูสายพาน นอกจากความอร่อยถึงใจแล้ว ยังมีสรรพคุณดีต่อร่างกาย แต่หากกินบ่อยเกินไป อาจมีโทษได้เช่นกัน เราจึงพามาเปิดความลับ ที่หลายคนอาจไม่เคยรู้!
ทำความรู้จักกันก่อนเลยว่า หม่าล่า (麻辣 / málà) คือ รสชาติอาหารดั้งเดิม จากมณฑลเสฉวน ประเทศจีน มีส่วนประกอบของ ฮวาเจียว เป็นหลัก เป็นเครื่องเทศที่ให้ความเผ็ดชา หรือ เรียกกันว่า พริกไทยเสฉวน (Sichuan Pepper) พร้อมด้วยพริก และ เครื่องเทศอื่น นำมาเคี่ยวผสมกับน้ำมัน จนเป็นเมนูหลากหลาย
จากเครื่องเทศฮวาเจียว เมื่อนำมาประกอบอาหาร จะมีตัวกระตุ้น ปุ่มรับรสบนลิ้น จนเกิดอาการชา เผ็ดร้อน ทั้งยังมีกลิ่นหอม โดยตามความเป็นจริง ลิ้นของคนเรา ไม่สามารถรับรู้รสเผ็ดได้ แต่จะมีปุ่มเล็ก ๆ เรียกว่า ปาปิลา (Lingual Papillae) [1] ให้ความรู้สึกเผ็ด จากสารแคปไซซิน (Capsaicin) ที่พบได้ในพริกทั่วไป
ความเผ็ดชา เผ็ดร้อน เป็นเอกลักษณ์โดดเด่นของ หม่าล่า นอกจากจะนำมาปรุงอาหาร เพิ่มรสชาติความอร่อยแล้ว ยังมีประโยชน์ต่อร่างกาย สามารถนำมาเป็นยาได้ ซึ่งเป็นต้นตำรับสมุนไพรจีน มาตั้งแต่สมัยโบราณ มีสรรพคุณดีมากมาย ดังต่อไปนี้
สำหรับข้อควรระวัง ของคนชอบกิน หม่าล่า จากส่วนประกอบ สมุนไพรหลากชนิด ไม่ว่าจะเป็น ฮวาเจียว อบเชย โป๊ยกั๊ก กานพลู เม็ดยี่หร่า ขิง หรือ กระวานดำ หากกินในปริมาณที่พอเหมาะ แน่นอนว่าให้คุณประโยชน์กับร่างกาย แต่ถ้าหากกินบ่อยครั้งเกินไป จะเกิดอะไรขึ้น?
ด้วยความเผ็ด จากสารในพริกของ หม่าล่า อาจทำให้มีอาการเสียดท้อง แสบร้อนกลางอก เนื่องจากว่ามีฤทธิ์เป็นกรด ส่งผลให้ระบบทางเดินอาหาร ระคายเคือง ทั้งยังเกิดแผล ในกระเพาะอาหาร เยื่อบุหลอดอาหารโดนทำลาย หรือ เป็นโรคกรดไหลย้อน ตามมาได้เช่นกัน
หม่าล่า ต้นตำรับอาหารจีน ความนิยมสูง อร่อยแบบชาลิ้น ที่คนไทยชอบ หากกินดีจะมีประโยชน์ กินมากก็ให้โทษ ดังนั้นแล้ว การกินอาหารเผ็ด ที่มากจนเกินไป ก็จะส่งผลเสียต่อร่างกาย แทนที่จะกินแล้วมีประโยชน์ รวมถึงอาหารรสเผ็ด ของไทยอีกมากมายด้วย
[1] Wikipedia. (December 30, 2023). การรับรู้รส. Retrieved from Wikipedia
LONPAO Official © 2023 All Rights Reserved.
